ไม่ใช่หินทั้งหมดที่มีความหนาแน่นเท่ากับหินแกรนิตและหินอ่อนที่เราใช้สร้าง หินบางชนิดมีรูพรุนและดูดซึมได้ดีกว่ามาก การซึมผ่านนี้ทำให้อากาศและน้ำสามารถเข้าไปในร่างกายของหินได้ซึ่งฟิสิกส์และเคมีจะเข้ามาระเบิดหินเมื่อมันร้อนขึ้น
เครดิต: Neil Podoll / iStock / Getty Images หลุมไฟในบ้านประเภทของหิน
เครดิต: flas100 / iStock / Getty Images หินต่างๆหินมีสามประเภทพื้นฐานคือหินอัคนีตะกอนหรือหินแปร หินอัคนีเป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟที่ไหลออกมาจากลาวาร้อนซึ่งจะทำให้หินแข็งตัว หินตะกอนเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากหลายชั้นของมหาสมุทรหรือทะเลสาบตะกอนตกตะกอนบนมหาสมุทรหรือพื้นทะเลสาบ Metamorphic นั้นเป็นหินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหินอัคนีหรือหินตะกอนและถูกทำให้ร้อนและอัดตัวเป็นก้อนหินที่มีความหนาแน่นมากกว่าหินดั้งเดิม
ฮาร์ดร็อค
เครดิต: valentinapetrova / iStock / Getty ImagesGranite rockหินแข็งทั่วไปคือหินแกรนิตหินอ่อนและหินชนวน หินอ่อนและหินชนวนเป็นทั้งหินแปรซึ่งได้รับการก่อตัวเมื่อเวลาผ่านไปโดยการบีบอัดของหินปูนและหินดินดานตามลำดับ หินแกรนิตเป็นหินอัคนีที่ไม่เคยสัมผัสกับอากาศหรือน้ำเมื่อมันเย็นตัวลงทำให้มันแข็งตัวในรูปแบบที่หนาแน่นมาก
หินอ่อน
เครดิต: Eremin Sergey / Hemera / Getty Images รายละเอียดของหินภูเขาไฟหินที่นิ่มกว่าเช่นหินทรายหินปูนและหินภูเขาไฟจะไม่หนาแน่นเท่ากับหินแกรนิตหรือหินอ่อน มีช่องว่างระหว่างโมเลกุลที่ประกอบเป็นหินมากขึ้น ทำให้พวกเขาทั้งเบาเบาและดูดซึมน้ำได้มากขึ้น ทั้งหินทรายและหินปูนเป็นหินตะกอนที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการบีบอัดอย่างมากทำให้สามารถซึมผ่านได้ในระดับสูง หินภูเขาไฟก็มีรูพรุนด้วยเช่นกัน แต่เป็นหินอัคนีที่ก่อตัวเมื่อลาวาภูเขาไฟร้อนผสมกับอากาศที่เย็นกว่าหรือน้ำทำให้เกิดฟองอากาศที่ทำให้โครงสร้างหินอ่อนแอลงทำให้เป็นรูพรุนมาก
หินระเบิดอย่างไร
เครดิต: legna69 / iStock / Getty ImagesRocks โดยไฟอากาศและน้ำที่ซึมผ่านได้มีแนวโน้มที่จะระเบิดได้มากกว่าหินที่ไม่สามารถซึมผ่านได้ นี่เป็นเพราะหินหรืออากาศถูกดูดซับโดยหินเมื่อมันเย็นแล้วจากนั้นโมเลกุลของอากาศหรือน้ำที่ติดอยู่ภายในหินจะขยายตัวเร็วกว่าหินที่เป็นของแข็งเมื่อมันร้อนขึ้นถัดจากไฟ หากมีปริมาณน้ำเพียงพอในหินที่ร้อนและมีรูพรุนหินจะระเบิดเมื่อแรงของก๊าซไอน้ำที่กำลังขยายตัวอยู่ภายในนั้นมากกว่าก้อนหินที่บรรจุอยู่