วิธีการฆ่าทำลายในสวนดิน

Pin
Send
Share
Send

การทำลายในสวนทำให้ฤดูการปลูกที่น่าผิดหวัง เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นเหยื่อของพืชผลที่ได้คือผลที่ไม่ดีและแม้แต่พืชที่ตายแล้ว วิธีการหลายอย่างสามารถควบคุมการทำลายรวมถึงการปลูกพืชหมุนเวียนเป็นประจำซื้อพืชต้านทานและใช้การควบคุมสารเคมีที่ฆ่าแบคทีเรียที่รับผิดชอบ วิธีการหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือการใช้พลังงานแสงอาทิตย์โดยใช้แสงจากดวงอาทิตย์เพื่อให้ความร้อนแก่ดินสูงพอที่จะฆ่าแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

โซลาริไลเซชั่นอาจไม่ให้การฆ่าเชื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชาวสวนในบ้าน

ขั้นตอนที่ 1

ตัดพลาสติกเพื่อให้พอดีกับขนาดของสวนโดยมีขอบประมาณ 12 นิ้ว หากพลาสติกอยู่ในแถบจากนั้นใช้กาวที่ทนความร้อนเพื่อสร้างชิ้นเดียวที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับสวน ม้วนพลาสติกขึ้นเหมือนพรมตามขอบกว้างที่สุด

ขั้นตอนที่ 2

ทำความสะอาดสวนของเศษซากทั้งหมดเช่นวัชพืชใบไม้และซากพืช จัดสวนให้เรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยปรับระดับเพื่อไม่ให้มีเนินหรือหุบเขา

ขั้นตอนที่ 3

รดน้ำดินในสวนจนกว่าจะเปียกโชกอย่างทั่วถึง ระมัดระวังการใช้การตั้งค่าที่นุ่มนวลในการรดน้ำเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่สร้างความกดดันเมื่อโดนดิน

ขั้นตอนที่ 4

วางพลาสติกที่รีดแล้วลงบนพื้นที่ขอบสวนโดยตรงเพื่อที่เมื่อมันคลายออกมันจะครอบคลุมสวน คลี่ออกไม่กี่นิ้วแล้วดึงขอบพลาสติกที่ไม่ได้เปิดออกตอนนี้ด้วยสเตคดินอิฐหรือน้ำหนักอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 5

คลี่พลาสติกออกไปที่สวนแล้วปิดมันให้มิดชิดแล้วปล่อยให้ไม่มีช่องอากาศใด ๆ หากเป็นไปได้หลีกเลี่ยงการเดินบนพื้นดินและอัดดิน

ขั้นตอนที่ 6

ยึดทุกด้านของพลาสติกเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอากาศไหลซึมภายใต้ขอบ

ขั้นตอนที่ 7

ทิ้งพลาสติกไว้ในสวนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงหกสัปดาห์ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ ดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิในสภาพอากาศที่เย็นสามารถทำให้ดินร้อนได้ถึงประมาณ 130 องศา F และฆ่าเชื้อในดินลึก 4-6 นิ้วในช่วงหลายสัปดาห์ ดวงอาทิตย์ฤดูร้อนที่ร้อนแรงสามารถเข้าถึง 160 องศาและทำงานเดียวกันในหนึ่งสัปดาห์

ขั้นตอนที่ 8

นำพลาสติกออกและเมื่อดินเย็นตัวลงให้กำหนดพืชตามปกติ microfauna ที่คุณต้องการเพื่อประโยชน์ของดินและพืชจะเริ่มสร้างตัวเองใหม่อย่างรวดเร็ว

Pin
Send
Share
Send

ดูวิดีโอ: แกใขปญหาสารตกคางในดนเกษตรแมกซาโกคยเฟองเรองเกษตร (กรกฎาคม 2024).